จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | สมุนไพรคงคา |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
สรรพคุณ บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ทะเบียนเลขที่ G325/45 ขนาดบรรจุ 100 แคปซูล
ข้อมูลเพิ่มเติม ข้อมูลและสรรพคุณสมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบหลักของยาบรรเทาปวดเมื่อยแคปซูล พริกไทย (Pepper, Black Pepper) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Piper nigrum Linn. มีสรรพคุณในการรักษาอาการปวดเมื่อย เป็นเหน็บชาง่าย ข้อมูลทางคลินิก พริกไทยมีฤทธิ์ในการรักษา คือ 1.รักษาโรคตับอักเสบ 2.รักษาโรคหลอดเลือดอักเสบเรื้อรัง และมีอาการหอบหืด 3. รักษาประสาทอ่อนเพลีย 4. รักษาโรคผิวหนัง 5. รักษาเด็กที่ท้องเสียจากระบบการย่อยอาหารไม่ดี
ข้อมูลทางเภสัชวิทยา พริกไทยไม่มีผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ เมื่อรับประทานแล้วอาจรู้สึกแสบ เผ็ดลิ้น ร้อนไปทั้งตัวและศีรษะ พริกไทยมีสรรพคุณคล้ายกับพริก(ซึ่งพริกมีสรรพคุณในการรักษาอาการบวม ฟกช้ำ รักษาอาการปวดตามเอวและน่อง) แต่ระคายเคืองน้อยกว่าพริก นิยมใช้ในทางขับลม บำรุงกระเพาะอาหาร สำหรับการใช้ภายนอกนั้นใช้เป็นยาช่วยกระตุ้นและทำให้โลหิตไหลเวียนมากขึ้น ส่วนอัลคาลอยด์ของพริกไทยมีฤทธิ์เป็นยารักษาอาการไข้และขับลม สารที่สกัดด้วยน้ำ อีเธอร์ และแอลกอฮอล์จากพริกไทย พบว่า มีฤทธิ์ฆ่าพยาธิตัวตืดและมีผลต่อพยาธิเส้นด้าย ส่วนสารสกัดด้วยแอลกอฮอล์จากพริกไทยดำนั้นมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อ Staphylococcus aureus และ Escherichia coli สาร oleoresin จากพริกไทยดำที่มีความเข้มข้นประมาณ 0.1% มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อ Staphylococcus aureus (ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ เป็นตะคริวในช่องท้องและอ่อนเพลีย) และ Aspergillus (ทำให้มีอาการชักและหมดสติ เนื่องจากมีความผิดปกติของตับและสมอง) (1)
กานพลู (Clove) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Eugenia caryophyllum Bullock & Harrison ส่วนที่ใช้เป็นยาแก้ปวดและสรรพคุณ คือ ดอกตูม ใช้แก้ปวด แก้โรคเหน็บชา น้ำมันหอมระเหยกานพลู ใช้เป็นยาชาเฉพาะแห่ง ฆ่าเชื้อทางทันตกรรม เป็นยาระงับการชักกระตุก ทำให้ผิวหนังชา ลดการบวมและการอักเสบ ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ รูมาติซึม สารสกัดเมทานอลจากดอกกานพลูมีฤทธิ์ยับยั้ง IL-8 ได้มากกว่า 50% ซึ่ง IL-8 เป็น neutrophil chemoattractant และเกี่ยวข้องกับกระบวนการอักเสบได้ ดังนั้นสารสกัดกานพลูนี้จึงอาจมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการอักเสบเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับสารหลายชนิดด้วยกัน (2) ขิง(Ginger) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Zingiber officinale Roscoe ขิงแห้งมีคุณสมบัติร้อน มีสรรพคุณอุ่น สลายความเย็น (เป็นหลักในการรักษาโรคกระเพาะอาหารและม้ามเกิดการบกพร่องจากปฏิกิริยากับสารที่มีคุณสมบัติเย็น ซึ่งมีอาการท้องอืด แน่น อาหารไม่ย่อย มีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก) นอกจากนั้นยังมีฤทธิ์ต่อระบบหมุนเวียนของเลือดและการหายใจ จากการวิจัยของศาสตราจารย์แพทริค โอคอนนอร์ ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยจอร์เจียแห่งสหรัฐอเมริกา พบว่าขิงมีสรรพคุณแก้กล้ามเนื้อปวดเมื่อยลงได้ถึงร้อยละ 25 หลังจากการออกกำลังหนักๆและช่วยบรรเทากล้ามเนื้อเจ็บปวดได้ดีเป็นพิเศษอีกด้วย (3) เจตมูลเพลิงแดง (Rose-colored Leadwort) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Plumbago indica Linn., P. rosea Linn. ส่วนที่ใช้เป็นยาและสรรพคุณ คือราก จะมีสารจำพวก Naphthaquinone ชื่อว่า Plumbagin, D-naphthaquinone ใช้เป็นยาแก้ปวดข้อและเป็นอัมพาต ขับเหงื่อ แก้บวม แก้ปวดบวม บำรุงโลหิต ช่วยย่อยอาหาร เจริญอาหาร แก้ปวดท้องแน่นจุกเสียด ขับลมในลำไส้ แก้ท้องร่วง แก้ริดสีดวงทวาร ฆ่าพยาธิ ระงับอาการปวดฟัน แก้ไข้ รักษาฝี แก้ปอดบวม แก้หนังด่างและโรคผิวหนัง แก้รังแค แก้ปวดศีรษะ ขับฟอกโลหิตระดู (4-5)
ข้อห้ามใช้ หญิงตั้งครรภ์ห้ามรับประทานรากของเจตมูลเพลิงแดง
ดีปลี (long pepper) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper retrofractum Vahl ส่วนที่ใช้เป็นยา ได้แก่ ราก เถา ใบ ดอก ผลแก่จัด ซึ่งมีสรรพคุณดังนี้ ราก - แก้พิษอัมพฤกษ์ อัมพาต แก้ตัวร้อน แก้ท้องร่วง ขับลมในลำไส้ เถา - แก้พิษงู ขับเสมหะ แก้ปวดฟัน ปวดท้อง จุกเสียด แก้เสมหะพิการ แก้ลมอัมพฤกษ์ ใบ - แก้ปวดเมื่อย แก้เส้นเอ็น แก้เส้นสุมนา(เส้นศูนย์กลางลำตัว) ดอก - แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียดแน่นท้อง ขับลม ในลำไส้ให้ผายและเรอ แก้หืด ไอ แก้ริดสีดวง คุดทะราด แก้ลมวิงเวียน แก้เสมหะ น้ำลายเหนียว แก้ไอ บำรุงธาตุ แก้ท้องเสีย แก้ปถวีธาตุ 20 ประการ แก้อัมพาต และเส้นปัตคาด ผลแก่จัด - รสเผ็ดร้อน แก้ลม บำรุงธาตุไฟ แก้หืดไอ แก้เสมหะ(หลังเป็นหวัด) แก้หลอดลมอักเสบ ยาขับระดู ยาธาตุ ทาแก้ปวดเมื่อยและอักเสบของกล้ามเนื้อ แก้อาการท้องขึ้น ท้องอืดเฟ้อแน่นจุกเสียด ขับลม บำรุงธาตุ ใช้ประกอบตำรายาที่ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ธาตุไม่ปกติ (6) เถาวัลย์เปรียง (Derris Scanderis) ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Derris scandens (Roxb.) Benth เถาวัลย์เปรียงเป็นหนึ่งในตัวยาที่ถูกบรรจุอยู่ในตำรับยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยมีสรรพคุณเป็นยากษัยเส้น หรือยาแก้ปวดเมื่อย มีการศึกษาถึงฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และมีความปลอดภัยในการใช้เถาวัลย์เปรียง ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ถือเป็นหนึ่งในยุทธ์ศาสตร์สำคัญของกรมซึ่งที่ผ่านมาได้ทำการศึกษาฤทธิ์ในสมุนไพรหลายชนิด และทดลองสกัดในห้องปฏิบัติการเพื่อนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยทดแทนการนำเข้ายาจากต่างประเทศ และจากการทดลองวิจัย “เถาวัลย์เปรียง” พบว่าสารสกัดจากลำต้นมีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการปวด ต้านการอักเสบ สามารถใช้แทนยาแก้อักเสบประเภทสเตียรอยด์ที่เป็นยาแผนปัจจุบันเพื่อรักษาโรคปวดหลังและปวดตามข้อได้ ซึ่งหลังจากที่ใช้เวลาทำการทดลองนานเกือบ 10 ปี ขณะนี้ได้ผ่านการทดสอบทางคลินิกในคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งระยะที่ 1 และ 2 ให้ผลดีเป็นที่น่าพอใจ ร่างกายสามารถดูดซึมยานี้ได้ดี ไม่มีความเป็นพิษหรือผลข้างเคียง ทั้งยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย (7-8)
เอกสารอ้างอิง 1. บทความจากสมุนไพรดอทคอม. 2553. พริกไทย. สืบค้นจาก http://www.samunpri.com/modules.php?name=Herbs&file. 2. บพิตร กลางกัลยา, นงลักษณ์ สุขวาณิชย์ศิลป์. รายงานผลการศึกษาโครงการการประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาจากสมุนไพร. กรุงเทพมหานคร. 2544. 3.ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคม 2553 4. สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี, 2553. สรรพคุณสมุนไพรแบ่งตามกลุ่มอาการ : เจตมูลเพลิงแดง. สืบค้นจาก http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs. 5.ไพฑูรย์ ดอกบัวแก้ว, 2552. พืชสมุนไพรของคนเมืองและไทใหญ่ในล้านนา : เจตมูลเพลิงแดง. สืบค้นจาก http://www.sri.cmu.ac.th/elanna. 6. ยศ สวนอรุโณทัย, 2552. ดีปลีและประโยชน์ของดีปลี. สืบค้นจาก http://www.kasetporpeang.com (เกษตรพอเพียงดอทคอม). 7. เถาวัลย์เปรียงพิชิตข้อเสื่อม .บทความ. 23 กรกฎาคม 2552. สืบค้นจาก http://oainform.wordpress.com. 8. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ คัดจากราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนที่ 67 ง. วันที่ 24 สิงหาคม 2542 เอกสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจทางด้านสุขภาพแก่ผู้อ่านเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงหรือใช้แทนการวินิจฉัยในการรักษาของแพทย์แก่ผู้ป่วยได้ ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |